การจะเป็นนักมวยปล้ำซูเปอร์สตาร์ของ WWE สมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก ไม่เพียงแต่ต้องมีความชำนาญการปล้ำบนเวทีที่ดี

webmaster

กว่าจะเป็น จอห์น ซีน่า : บทเรียนที่สอนให้รู้ดีว่า ถ้าหากต้องการเด่นต้องค้นหาตัวตนให้พบ ข่าวมวยปล้ำ

ข่าวมวยปล้ำ แต่ว่าคุณจะต้องมีคาแร็กเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เด่น เพื่อผู้ชมสามารถจำคุณได้ตั้งแต่เดินออกมาหน้าเวที ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็มีนักมวยปล้ำผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่หาคาแร็กเตอร์ของตนพบกระทั่งบรรลุความสำเร็จมีชื่อเสียง

กลายเป็นที่รักของแฟนคลับแต่ว่าก็มีนักมวยปล้ำฝีมือเยี่ยมอีกหลายๆคนที่หาบุคลิกของตนไม่เจอ ซื้อใจผู้ชมไม่ได้ จนกระทั่งต้องลากกระเป๋าออกมาจากสโมสรไปอย่างผิดหวัง

จอห์น ซีน่า ก็เป็นอีกคนที่เคยหลงทาง เมื่อเขาหาตัวตนบนเวทีที่กับตนเองแล้วก็ผู้ชม WWE ไม่เจอ จนเกือบจะถูกสโมสรตัดชื่อทิ้ง สามารถเดิมพันคาสิโนออนไลน์ และ แทงบอลสด ได้ตลอด 24 ชม. คลิ๊กเลยที่ ufabet เว็บแม่

ข่าวมวยปล้ำ

แม้กระนั้นเมื่อวันหนึ่งเขาได้ออกทัวร์นอกประเทศ ได้ดำรงชีวิตกับสหายพี่น้องร่วมกลุ่มการ เขาก็บังเอิญเจอคาแร็กเตอร์ที่ถูกแบบไม่ทันรู้ตัวซึ่งก็คือกิมมิค “แร็ปเปอร์ตัวเกรียน” หรือ “Dr. of Thuganomics” ซึ่งท้ายที่สุดมันได้สนับสนุนให้ จอห์น ซีน่า เปลี่ยนเป็นสุดที่รักของผู้ชม และก็ยกสถานะเป็นซูเปอร์สตาร์ของ WWE ไปตลอด

กิมมิค “แร็ปเปอร์ตัวเกรียน” ช่วยชีวิตของ จอห์น ซีน่า อย่างไรบ้าง Main Stand มีคำตอบให้… นักเพาะกายสู่นักมวยปล้ำ

ก่อนที่จะโลกจะรู้จัก จอห์น ซีน่า ในฐานะนักมวยปล้ำบิ๊กเนม เด็กวัยหนุ่มคนอเมริกันจากเมืองเวสต์นิวบูรี เมืองแมสซาชูเซตส์ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยสปริงฟิลด์ ในปี 1999 ได้รับปริญญาสาขาสรีรวิทยาการบริหารร่างกายแล้วก็การเคลื่อนไหว

ซึ่งต่อจากนั้น ซีน่า ก็ได้มุ่งนำวิชาความรู้ที่เรียนมาไปสู่การเป็นเป็นนักกีฬาเพาะกาย ปั้นกล้ามตนเองให้แข็งแรงใหญ่โต รวมทั้งดำเนินการอื่นๆ หาเงินเลี้ยงชีวิต เช่น เป็นคนขับลีมูซีนพาลูกค้าไปส่งทุกจุดมุ่งหมายที่ว่าว่าจ้าง หรือเป็นพนักงานล้างห้องน้ำตามโรงยิมฟิตเนสต่างๆ

ซีน่า มีความตั้งใจจะเป็นนักเพาะกล้ามระดับอาชีพ ถึงกับขนาดได้รับช่องทางให้เป็นนายแบบในวิดีโอโปรโมทของ Gold’s Gym โรงยิมออกแรงที่โด่งดังในแคลิฟอร์เนีย

รวมทั้งเมื่อโฆษณาของ Gold’s Gym ที่ซีนาเป็นพรีเซ็นเตอร์ปรากฏต่อสายตาผู้ชมก็สร้างความพึงพอใจให้กับคณะทำงานของ WWE สโมสรมวยปล้ำยักษ์ใหญ่ของโลก กระทั่งท้ายที่สุดซีน่าก็ได้รับข้อเสนอจาก WWE เชื้อเชิญไปสู่แวดวงมวยปล้ำ ในปี 1999

แม้ว่าจะไม่มีเบื้องต้นวิชามวยปล้ำมาก่อน แต่ว่าผู้ชายที่มีชื่อเต็มว่า “จอห์น เฟลิกซ์ แอนโธนี ซีน่า” ก็ตอบรับช่องทางที่เข้ามา เขาล่ำลาแวดวงเพาะกายแล้วก็ไปสู่โลกของมวยปล้ำตั้งแต่แมื่อนั้นมา

ปี 1999 จอห์น ซีน่า ไปสู่โลกมวยปล้ำในฐานะนักมวยปล้ำฝึกซ้อม เขาได้รับการฝึกซ้อมวิชามวยปล้ำจากผู้ฝึกสอนและก็คุณครูต่างๆ ที่อยู่ในชมรม Ultimate Pro Wrestling (UPW) กับ Ohio Valley Wrestling (OVW)

ที่อยู่ภายใต้การจัดการของ WWE ระยะเวลานั้นซีนาได้ทำความเข้าใจวิชามวยปล้ำพร้อมทั้งเพื่อนพ้องร่วมรุ่นอย่าง แรนดี้ ออร์ตัน, เดฟ เบาติสต้า, เชลตัน เบนจามิน แล้วก็ บร็อค เลสเนอร์ โดยทุกคนล้วนเป็นเพียงแค่ดาวรุ่งที่ยังไม่ผ่านการเจียระไนให้ฉายแสง

ซีน่า ในสมัยที่ขึ้นปล้ำกับ UPW กับ OVW แสดงตัวในกิมมิค The Prototype เป็นนักเพาะกล้ามกล้ามโต หัวเกรียน มีผมทองครึ่งโมฮอว์กอยู่กึ่งกลางหัว สวมกางเกงมวยปล้ำหลายสีแล้วก็ช่างจ้อช่างเจรจาเมื่อมีไมค์มาอยู่ในมือของเขา

ซึ่งขณะนั้นแม้ความชำนาญการปล้ำของซีน่าจะไม่ด้อยกว่าผู้ใด แม้กระนั้นคาแร็กเตอร์ในวันนั้นยังไม่โดดเด่นส่องแสงเท่าเพื่อนพ้องผู้อื่นชนิดที่ แรนดี้ ออร์ตัน สหายร่วมรุ่นแล้วก็คู่ต่อสู้ในอนาคตยังเห็นว่าแปลก

จอห์นกำลังพบกับช่วงเวลาที่ทุกข์ยากสำหรับเพื่อการค้นหาตนเอง เขาไม่เคยรู้ว่าตนเองเป็นใครกันแน่บนเวที ด้วยเหตุดังกล่าวเขาต้องหาตนเองให้พบรวมทั้งให้มันนำพาไปสู่ก้าวถัดไป” บรูซ พริคชาร์ด ผู้ตัดสินบริหารของ WWE มีความคิดเห็น รวมทั้งพยายามเชียร์ให้ซีน่าค้นหาลักษณะท่าทางที่ถูกของตนเองให้พบ

Dr. of Thuganomics” กิมมิคเปลี่ยนแปลงชีวิตระหว่างทัวร์ยุโรป ตอนหนึ่งของปี 2002 สโมสร WWE ได้จัดโปรแกรมทัวร์ยุโรป ขนกองทัพนักมวยปล้ำออกไปเดินสายปล้ำโชว์ต่อหน้าต่อตาแฟนคลับประเทศอื่นนอกสหรัฐฯ

ซึ่งในกลุ่มนั้นก็มี จอห์น ซีน่า รวมอยู่ด้วย และก็การทัวร์ยุโรปคราวนี้เองก็นำพาให้ จอห์น ซีนา ได้เจอกับกิมมิคที่เขาตามหาอยู่แบบไม่ได้ตั้งใจ

วันหนึ่งผมนั่งรถโดยสารประจำทางอยู่กับทัวร์ ผมได้ยิน ริกิชิ กับ เรย์ มิสเตริโอ ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังรถยนต์กำลังร้องแร็ป แบทเทิล สไตล์ กันอยู่ พวกเขาชักชวนผมมาแจมด้วย ผมก็แบบอ่ะ ลองดูก็ได้” ซีน่า เล่าย้อนเรื่องในอดีต

ซึ่งแรกเริ่มเขาก็เป็นผู้ที่ถูกใจฟังเพลงแร็ป ฮิปฮอป อยู่สุดแต่ไม่ค่อยแสดงออกให้เพื่อนฝูงเห็นเท่าไร แต่ทว่าการร้องเพลงแร็ปกับเพื่อนฝูงๆบนรถบัสในวันนั้น ทำให้ซีนาจุดประกายว่าบุคลิกลักษณะ “แร็ปเปอร์ตัวเกรียน” น่าจะเป็นกิมมิคที่ใช่สำหรับเขา

แล้วก็อีกคนที่ช่วยสนับสนุนกิมมิคแร็ปเปอร์ของ จอห์น ซีน่า ก็คือ สเตฟานี่ แม็คแมน บุตรสาวของ วินซ์ แม็คแมน ประธาน WWE ที่เป็นหัวหน้าทีมพานักมวยปล้ำกับคณะทำงานเดินสายทัวร์ยุโรปในช่วงเวลานั้น ซีน่าเล่าว่าเขาได้โอกาสลองแร็ปแซวสเตฟานี่ทั้งยังตอนคุยงาน

และก็กินอาหารจนถึงสเตฟานีรู้สึกถูกใจเลยพูดว่า “ต้องการลองแร็ปออกรายการทีวีไหม” เพื่อเช็คปฏิกิริยาจากแฟนมวยปล้ำมองว่าจะคืออะไร รวมทั้งซีน่าก็ตอบตกลงอย่างไม่รีรอ

ซีน่า เริ่มเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม เปลี่ยนแปลงเพลงเปิดตัวเป็นเพลงฮิปฮอปชื่อ “Word Life” ที่ตนเองร้อง เขาหันมาใส่เสื้อตัวใหญ่ กางเกงยีนส์ขาสั้น เอาโซ่เส้นใหญ่มาคล้องคอ

ตั้งชื่อกิมมิคแร็ปเปอร์ตัวเกรียนนี้ว่า “Dr. of Thuganomics” แล้วเมื่อใดก็ตามเขาได้จับไมค์ออกรายการก็จะพูดจาภาษาแร็ปเปอร์ พูดเป็นประโยคสอดคล้อง ล้อเลียนคู่แข่งขัน ล้อเลียนผู้ชม จนถึงกลายเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ไม่เหมือนนักมวยปล้ำคนใดในสโมสร

กิมมิค “Dr. of Thuganomics” ของ จอห์น ซีน่า ไปถึงเป้าหมายเมื่อเขาเริ่มมัดใจผู้ชมได้มากขึ้นเรื่อยแถม WWE ยังให้โอกาสให้ซีนาสามารถเล่นบันเทิงใจกับหน้าที่นี้ได้สุดกำลัง

ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนเพื่อนนักมวยปล้ำอย่าง บิ๊กโชว์, เคิร์ท แองเกิล, ไบรอัน เคนดริก อื่นๆอีกมากมาย มาแข่งขัน RAP BATTLE บนเวทีเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชม

หรือการเอามือขึ้นมาปิดหน้าแล้วกล่าวว่า “You Can’t See Me” ที่เอาไอเดียจากน้องชายมาใช้แล้วได้ผล เนื่องจากว่าผู้ชมถูกใจมากๆกระทั่งกลายเป็นวลีได้รับความนิยมประจำตัวของซีน่าไปเลย

แชมป์โลก และพระเอกของ WWE หลังเปลี่ยนกิมมิคเป็น Dr. of Thuganomics แล้วบรรลุผลสำเร็จ ได้เสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม วินซ์ แม็คแมน

รวมทั้ง WWE ก็เปลี่ยนแปลงแผนมาสนับสนุน จอห์น ซีน่า อย่างเต็มรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ให้เปิดศึกกับ บิ๊กโชว์ ชิงเข็มขัดแชมป์ US ในศึกเรสเซิลมาเนีย ปี 2004 แล้ว

เมื่อถึงแมตช์จริง ซีน่า ที่ได้เปิดตัวปล้ำ เรสเซิลมาเนีย ครั้งแรกในชีวิต ก็จับ บิ๊กโชว์ ใส่ท่า FU แล้วคว้าเข็มขัดแชมป์ของ WWE เส้นแรกในชีวิตมาได้

แม้ว่าจะชนะแบบตุกติกนิดนึงเนื่องจากคว้าเอาสนับมือมาใส่แล้วต่อย บิ๊กโชว์ ในขณะที่ผู้ตัดสินเผลอ และก็ตามด้วยท่าทีเด็ด FU กดนับสามชนะไป แม้กระนั้นผู้ชมในสนามวันนั้นก็ไม่มีใครตะโกนด่าว่าเนื่องจากถูกใจที่ได้เห็น ซีน่า กลายเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด

มันน่าทึ่งมากมายที่คุณได้อยู่ต่อหน้าผู้ชมที่ เมดิสัน สแควร์ การ์เดน (สนามจัด เรสเซิลมาเนีย) และก็ได้ถือเข็มขัดแชมป์ต่อหน้าแฟนคลับผมนึกออกเลยว่าจากนั้นผมเอาเข็มขัด และสิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างใส่ไว้ด้านในรถยนต์ ชื่นชมความสำเร็จอยู่ที่ลานจอดรถสาธารณะ

แล้วก็บอกตนเองว่าจะต้องเป็นคนติดดินดังเดิมนะ” จอห์น ซีน่า นึกถึงวันที่ได้ครอบครองเข็มขัดแชมป์ของ WWE เส้นแรกในชีวิตตั้งแต่แมื่อก้าวสู่รายการหลักเมื่อปี 2002

ตั้งแต่นั้นมา กราฟชีวิตของ จอห์น ซีน่า ก็พุ่งแรงแบบฉุดไม่อยู่ เขาถูกส่งเสริมให้ชิงแชมป์โลกเส้นใหญ่กับ JBL ดาวร้ายแห่ง Smackdown เวลานั้น รวมทั้งในศึกเรสเซิลมาเนีย ปี 2005 เจ้าตัวก็จัดการปราบ JBL

รวมทั้งครอบครองแชมป์โลกเฮฟวี่เวตมาครอบครองได้ ก่อนที่จะเอาเข็มขัดเส้นนั้นมาเปลี่ยนแปลงใหม่ให้เป็นเข็มขัดที่โลโก้ WWE หมุนได้ ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ รุ่นใหม่ได้มากจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ขายดิบขายดีติดลมบน

เป็นเข็มขัดที่แฟนๆ ซีน่ามีทุกบ้าน ส่วนแฟนๆสมัยโอลด์สคูลหน่อยก็จะวิภาควิจารณ์พลางด่าทอว่านี่มันสายรัดเอวบ้าอะไรกัน เอาเข็มขัดแชมป์โลกอันศักดิ์สิทธิ์มาทำเป็นสายรัดเอวของเล่นเด็กหลอกเด็กได้อย่างไร

กระนั้นชื่อเสียงรวมทั้งความสำเร็จของ ซีน่า ที่พุ่งแบบไม่หยุดหย่อนก็นับว่าเป็นดาบสองคม เมื่อสัมพันธ์ WWE ส่งเสริมซีน่าให้เป็นผู้แสดงนำชายชมรมแบบออกหน้าออกตา

ข่าวมวยปล้ำ ขึ้นปลุกปล้ำรายการไหนก็รับประกันว่าจะต้องชนะตลอด แถมเปลี่ยนแปลงสไตล์การปล้ำมาเน้นย้ำชก จับทุ่มเล็กน้อยแล้วปิดด้วยท่าทีเด็ด FU

(เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น Attitude Adjustment หรือ AA) ที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยวิภาควิจารณ์ว่าไม่เห็นจะร้ายแรงตรงไหน

เมื่อเทียบกับท่าหมัดเด็ดของคนอื่นจนถึงผู้ชมมวยปล้ำที่เป็นผู้ใหญ่รู้สึกต้านทานและก็ตะคอกด่าทอ “Cena Sucks!” ให้ได้ยินออกทีวีเสมอๆ เวลามองเห็นซีน่าปลุกปล้ำแบบแพตเทิร์นเดิมๆ รวมทั้งเดาได้ว่าจะจบลงแบบไหน โดยไม่ทราบจะเสียเวล่ำเวลาเชียร์ไปเพราะอะไร

จอห์น ซีน่า เห็นด้วยว่าขณะนั้นยิ่งเขาบรรลุเป้าหมายเขาก็ยิ่งกลายเป็นที่วิจารณ์รวมทั้งถูกโห่หนักขึ้นเรื่อยทั้งยังด้วยคาแร็กเตอร์ที่แพ้ไม่เป็น

รวมทั้งสไตล์การปล้ำแบบการ์ตูน เน้นย้ำเอนเตอร์เทน เอาอกเอาใจแฟนๆเด็กๆมากกว่าแฟนมวยปล้ำตัวจริง แต่ว่าสิ่งที่เขาเลือกตอบกลับผู้ชมมวยปล้ำก็คือก้มหน้าก้มตาดำเนินงานของตนเองต่อไปอย่างเดิม

กล่าวลากิมมิค “แร็ปเปอร์ตัวเกรียน เมื่อความโด่งดังรวมทั้งความสำเร็จเริ่มอยู่ตัว เดินไปไหนใครๆก็รู้จักกันหมดแล้ว บวกกับฐานแฟนๆเริ่มแปลงจากคนแก่ไปเป็นเด็กและก็ครอบครัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ

จอห์น ซีน่า ก็ตัดสินใจทิ้งกิมมิค Dr. of Thuganomics ที่แสดงบทบาทมาตั้งแต่ปี 2002 เพราะว่าต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่แฟนๆเด็กๆ ที่ใส่เสื้อสกรีนชื่อแล้วก็หน้าของเขามาดูโชว์ทุกอาทิตย์ และไม่ต้องการพูดจาหยาบคายติดเรตให้เด็กฟังผ่านการแร็ปอีกแล้ว

ผมไม่ต้องการที่จะอยากผลวิเคราะห์อะไร เพราะว่าผมมองเห็นมันกับตาตนเองแล้วมีความคิดว่าพวกเราควรเปลี่ยนมันในขณะนี้เลย

ก่อนที่ผมจะเดินไปที่ห้องทำงานของวินซ์แล้วพูดว่าผมจะหยุดแร็ป ซีน่า เล่าถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อมองเห็นฐานแฟนๆ ที่เปลี่ยนไปในทุกอาทิตย์

แม้กระนั้นการทิ้งกิมมิค Dr. of Thuganomics ก็มิได้ทำให้สถานะของ จอห์น ซีน่า ใน WWE แปรไปอะไร เขายังคงถูกส่งเสริมในฐานะพระเอกของสโมสรดังเดิม

สบโอกาสชิงเข็มขัดแชมป์โลกกับคู่แข่งระดับท็อปมากมายอาทิเช่น เอดจ์, คริส เจอริโก้, บิ๊ก โชว์, ทริปเปิลเอช, แรนดี้ ออร์ตัน, บาติสต้า, เรย์ มิสเตริโอ, เดอะ มิซ, เดอะ ร็อก, เอเจ สไตล์ส

จนกระทั่งทำสถิติเป็นแชมป์ WWE ถึง 16 สมัย สูงสุดเทียบเท่า ริค แฟลร์ “เดอะ เนเจอร์บอย” ตลอดไปของโลกมวยปล้ำ ซึ่งก็มีทั้งเสียงยกย่องและก่นด่าระคนกัน

ระยะเวลาผันผ่าน ภายหลังจากได้แชมป์ WWE มา 16 สมัย บวกกับมีซูเปอร์สตาร์เลือดใหม่เผยตัวมาเรียกความชื่นชอบจากแฟนคลับมากมายก่ายกอง ปี 2017 จอห์น ซีน่า ก็ได้ตัดสินใจลดบทบาทตนเองมาเป็นสตาร์แบบพาร์ตไทม์

ที่กลับมาแสดงตัวเป็นบางโอกาสตามอีเวนต์ใหญ่ยกตัวอย่างเช่น เรสเซิลมาเนีย ปี 2019 ที่กลับมาสวมบท Dr. of Thuganomics ออกมาแร็ปและก็เล่นงาน เอไลอัส นักมวยปล้ำมาดนักเล่นดนตรีบนเวที หรือปะทะกับ โรมัน เรนจ์ส ซูเปอร์สตาร์แชมป์โลกคนตอนนี้ใน ซัมเมอร์สแลม ปี 2021 ให้แฟนคลับได้หายคิดถึง

นอกนั้น จอห์น ซีน่า ได้หันเหไปสู่โลกฮอลลีวูด แล้วก็ค่อยๆสร้างชื่อบนแผ่นฟิล์มตามรอยรุ่นพี่อย่าง เดอะ ร็อก หรือ ดเวย์น จอห์นสัน ซึ่งเจ้าตัวก็ได้โอกาสได้แสดงภาพยนตร์อย่าง Fast & Furious 9, The Suicide Squad

หรือซีรีส์ Peacemaker ทางช่อง HBO ที่บรรลุเป้าหมายแบบสุดๆซึ่งการรับบทบาท Peacemaker คนร้ายตัวเกรียนก็เป็นอีกหนึ่งคาแร็กเตอร์ที่ทำให้คนชอบดูหนังได้รู้จัก จอห์น ซีน่า อย่างกว้างขวาง ภายหลังจากเล่นหนังมาหลายเรื่องแต่ว่ายังไม่มีบทบาทไหนที่ทำให้เจ้าตัวสะดุดตาเลย

หากแม้ขณะนี้ จอห์น ซีน่า จะไม่ได้เป็นแร็ปเปอร์ขาเกรียน Dr. of Thuganomics บนจอมวยปล้ำอีกแล้ว แต่ว่าเขาเองก็รู้สึกขอบพระคุณบทบาท Dr. of Thuganomics นี้อยู่เสมอ

เนื่องจากถ้าเกิดเขาไม่เจอกับบทบาทนี้บนรถบัสขณะทัวร์ยุโรปเมื่อปี 2002 เขาก็อาจไม่ประสบผลสำเร็จแล้วก็ได้รับการเชิดชูในฐานะซูเปอร์สตาร์ตลอดกาลของ WWE จนกระทั่งถึงวันนี้

นอกจากนี่ยังมีบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่นี้ เกมสล็อต&ยิงปลาออนไลน์ เกมคาสิโนออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ หวยออนไลน์ ไก่ชนออนไลน์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top